เมนู

อภูมิํ, ตาต, เสวสีติ, ตาต, คิริวิสมํ นาม ตว อภูมิ , ตํ เสวสิ อุปคจฺฉสิฯ เอตํ มาตาลยํ ตวาติ เอตํ คามนฺตํ อุกฺการฏฺฐานํ อามกสุสานฏฺฐานญฺจ ตว มาตุ อาลยํ เคหํ วสนฏฺฐานํ, ตตฺถ คจฺฉาหีติฯ เอวํ ตํ ตชฺเชตฺวา ‘‘คจฺฉถ, นํ มิถิลนครสฺส อุกฺการภูมิยญฺเญว โอตาเรตฺวา เอถา’’ติ ปุตฺเต อาณาเปสิ, เต ตถา อกํสุฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา วินีลโก เทวทตฺโต อโหสิ, ทฺเว หํสโปตกา ทฺเว อคฺคสาวกา อเหสุํ, ปิตา อานนฺโท อโหสิ, วิเทหราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

วินีลชาตกวณฺณนา ทสมาฯ

ทฬฺหวคฺโค ปฐโมฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

ราโชวาทญฺจ สิงฺคาลํ, สูกรํ อุรคํ ภคฺคํ;

อลีนจิตฺตคุณญฺจ, สุหนุ โมรวินีลํฯ

2. สนฺถววคฺโค

[161] 1. อินฺทสมานโคตฺตชาตกวณฺณนา

สนฺถวํ กาปุริเสน กยิราติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทุพฺพจชาติกํ อารพฺภ กเถสิฯ ตสฺส วตฺถุ นวกนิปาเต คิชฺฌชาตเก (ชา. 1.9.1 อาทโย) อาวิภวิสฺสติฯ สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ‘‘ปุพฺเพปิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ทุพฺพจตาย ปณฺฑิตานํ วจนํ อกตฺวา มตฺตหตฺถิปาเทหิ สญฺจุณฺณิโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วุฑฺฒิปฺปตฺโต ฆราวาสํ ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปญฺจนฺนํ อิสิสตานํ คณสตฺถา หุตฺวา หิมวนฺตปเทเส วาสํ กปฺเปสิฯ

ตทา เตสุ ตาปเสสุ อินฺทสมานโคตฺโต นาเมโก ตาปโส อโหสิ ทุพฺพโจ อโนวาทโกฯ โส เอกํ หตฺถิโปตกํ โปเสสิฯ โพธิสตฺโต สุตฺวา ตํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ หตฺถิโปตกํ โปเสสี’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘สจฺจํ, อาจริย, มตมาติกํ เอกํ หตฺถิโปตกํ โปเสมี’’ติฯ ‘‘หตฺถิโน นาม วุฑฺฒิปฺปตฺตา โปสเกเยว มาเรนฺติ, มา ตํ โปเสหี’’ติฯ ‘‘เตน วินา วตฺติตุํ น สกฺโกมิ อาจริยา’’ติฯ ‘‘เตน หิ ปญฺญายิสฺสสี’’ติฯ โส เตน โปสิยมาโน อปรภาเค มหาสรีโร อโหสิฯ

อเถกสฺมิํ กาเล เต อิสโย วนมูลผลาผลตฺถาย ทูรํ คนฺตฺวา ตตฺเถว กติปาหํ วสิํสุฯ หตฺถีปิ อคฺคทกฺขิณวาเต ปภินฺนมโท หุตฺวา ตสฺส ปณฺณสาลํ วิทฺธํเสตฺวา ปานียฆฏํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณผลกํ ขิปิตฺวา อาลมฺพนผลกํ ลุญฺจิตฺวา ‘‘ตํ ตาปสํ มาเรตฺวาว คมิสฺสามี’’ติ เอกํ คหนฏฺฐานํ ปวิสิตฺวา ตสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต อฏฺฐาสิฯ อินฺทสมานโคตฺโต ตสฺส โคจรํ คเหตฺวา สพฺเพสํ ปุรโตว อาคจฺฉนฺโต ตํ ทิสฺวา ปกติสญฺญาเยวสฺส สนฺติกํ อคมาสิฯ อถ นํ โส หตฺถี คหนฏฺฐานา นิกฺขมิตฺวา โสณฺฑาย ปรามสิตฺวา ภูมิยํ ปาเตตฺวา สีสํ ปาเทน อกฺกมิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา มทฺทิตฺวา โกญฺจนาทํ กตฺวา อรญฺญํ ปาวิสิฯ เสสตาปสา ตํ ปวตฺติํ โพธิสตฺตสฺส อาโรเจสุํ ฯ โพธิสตฺโต ‘‘กาปุริเสหิ นาม สทฺธิํ สํสคฺโค น กาตพฺโพ’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อาห –

[21]

‘‘น สนฺถวํ กาปุริเสน กยิรา, อริโย อนริเยน ปชานมตฺถํ;

จิรานุวุตฺโถปิ กโรติ ปาปํ, คโช ยถา อินฺทสมานโคตฺตํฯ

[22]

‘‘ยํ ตฺเวว ชญฺญา สทิโส มมนฺติ, สีเลน ปญฺญาย สุเตน จาปิ;

เตเนว เมตฺติํ กยิราถ สทฺธิํ, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติฯ

ตตฺถ น สนฺถวํ กาปุริเสน กยิราติ กุจฺฉิเตน โกธปุริเสน สทฺธิํ ตณฺหาสนฺถวํ วา มิตฺตสนฺถวํ วา น กยิราถฯ

อริโย อนริเยน ปชานมตฺถนฺติ อริโยติ จตฺตาโร อริยา อาจารอริโย ลิงฺคอริโย ทสฺสนอริโย ปฏิเวธอริโยติฯ เตสุ อาจารอริโย อิธ อธิปฺเปโตฯ โส ปชานมตฺถํ อตฺถํ ปชานนฺโต อตฺถานตฺถกุสโล อาจาเร ฐิโต อริยปุคฺคโล อนริเยน นิลฺลชฺเชน ทุสฺสีเลน สทฺธิํ สนฺถวํ น กเรยฺยาติ อตฺโถฯ กิํ การณา? จิรานุวุตฺโถปิ กโรติ ปาปนฺติ, ยสฺมา อนริโย จิรํ เอกโต อนุวุตฺโถปิ ตํ เอกโต นิวาสํ อคเณตฺวา กโรติ ปาปํ ลามกกมฺมํ กโรติเยวฯ ยถา กิํ? คโช ยถา อินฺทสมานโคตฺตนฺติ, ยถา โส คโช อินฺทสมานโคตฺตํ มาเรนฺโต ปาปํ อกาสีติ อตฺโถฯ ยํ ตฺเวว ชญฺญา สทิโส มมนฺติอาทีสุ ยํ ตฺเวว ปุคฺคลํ ‘‘อยํ มม สีลาทีหิ สทิโส’’ติ ชาเนยฺย, เตเนว สทฺธิํ เมตฺติํ กยิราถ, สปฺปุริเสน สทฺธิํ สมาคโม สุขาวโหติฯ

เอวํ โพธิสตฺโต ‘‘อโนวาทเกน นาม น ภวิตพฺพํ, สุสิกฺขิเตน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิสิคณํ โอวทิตฺวา อินฺทสมานโคตฺตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อินฺทสมานโคตฺโต อยํ ทุพฺพโจ อโหสิ, คณสตฺถา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

อินฺทสมานโคตฺตชาตกวณฺณนา ปฐมาฯ

[162] 2. สนฺถวชาตกวณฺณนา

สนฺถวสฺมา ปรมตฺถิ ปาปิโยติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อคฺคิชุหนํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ เหฏฺฐา นงฺคุฏฺฐชาตเก (ชา. 1.1.144 อาทโย) กถิตสทิสเมวฯ ภิกฺขู เต อคฺคิํ ชุหนฺเต ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, ชฏิลา นานปฺปการํ มิจฺฉาตปํ กโรนฺติ, อตฺถิ นุ โข เอตฺถ วุฑฺฒี’’ติ ภควนฺตํ ปุจฺฉิํสุฯ

‘‘น, ภิกฺขเว, เอตฺถกาจิ วุฑฺฒิ นาม อตฺถิ, โปราณกปณฺฑิตาปิ อคฺคิชุหเน วุฑฺฒิ อตฺถีติ สญฺญาย จิรํ อคฺคิํ ชุหิตฺวา ตสฺมิํ กมฺเม อวุฑฺฒิเมว ทิสฺวา อคฺคิํ อุทเกน นิพฺพาเปตฺวา สาขาทีหิ โปเถตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวาปิ น โอโลเกสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติฯ มาตาปิตโร ตสฺส ชาตคฺคิํ คเหตฺวา ตํ โสฬสวสฺสุทฺเทเส ฐิตํ อาหํสุ – ‘‘กิํ, ตาต, ชาตคฺคิํ คเหตฺวา อรญฺเญ อคฺคิํ ปริจริสฺสสิ, อุทาหุ ตโย เวเท อุคฺคณฺหิตฺวา กุฏุมฺพํ สณฺฐเปตฺวา ฆราวาสํ วสิสฺสสี’’ติฯ โส ‘‘น เม ฆราวาเสน อตฺโถ, อรญฺเญ อคฺคิํ ปริจริตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ ภวิสฺสามี’’ติ ชาตคฺคิํ คเหตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา ปณฺณสาลาย วาสํ กปฺเปตฺวา อคฺคิํ ปริจริฯ โส เอกทิวสํ นิมนฺติตฏฺฐานํ คนฺตฺวา สปฺปินา ปายาสํ ลภิตฺวา ‘‘อิมํ ปายาสํ มหาพฺรหฺมุโน ยชิสฺสามี’’ติ ตํ ปายาสํ อาหริตฺวา อคฺคิํ ชาเลตฺวา ‘‘อคฺคิํ ตาว ภวนฺตํ สปฺปิยุตฺตํ ปายาสํ ปาเยมี’’ติ ปายาสํ อคฺคิมฺหิ ปกฺขิปิฯ พหุสิเนเห ปายาเส อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตมตฺเตเยว อคฺคิ ชลิตฺวา ปจฺจุคฺคตาหิ อจฺจีหิ ปณฺณสาลํ ฌาเปสิฯ พฺราหฺมโณ ภีตตสิโต ปลายิตฺวา พหิ ฐตฺวา ‘‘กาปุริเสหิ นาม สนฺถโว น กาตพฺโพ, อิทานิ เม อิมินา อคฺคินา กิจฺเฉน กตา ปณฺณสาลา ฌาปิตา’’ติ วตฺวา ปฐมํ คาถมาห –

[23]

‘‘น สนฺถวสฺมา ปรมตฺถิ ปาปิโย, โย สนฺถโว กาปุริเสน โหติ;

สนฺตปฺปิโต สปฺปินา ปายเสน, กิจฺฉากตํ ปณฺณกุฏิํ อทยฺหี’’ติฯ

ตตฺถ น สนฺถวสฺมาติ ตณฺหาสนฺถวาปิ จ มิตฺตสนฺถวาปิ จาติ ทุวิธาปิ เอตสฺมา สนฺถวา ปรํ อุตฺตริ อญฺญํ ปาปตรํ นตฺถิ, ลามกตรํ นาม นตฺถีติ อตฺโถฯ โย สนฺถโว กาปุริเสนาติ โย ปาปเกน กาปุริเสน สทฺธิํ ทุวิโธปิ สนฺถโว, ตโต ปาปตรํ อญฺญํ นตฺถิฯ กสฺมา? สนฺตปฺปิโต …เป.…อทยฺหีติ, ยสฺมา สปฺปินา จ ปายาเสน จ สนฺตปฺปิโตปิ อยํ อคฺคิ มยา กิจฺเฉน กตํ ปณฺณสาลํ ฌาเปสีติ อตฺโถฯ

โส เอวํ วตฺวา ‘‘น เม ตยา มิตฺตทุพฺภินา อตฺโถ’’ติ ตํ อคฺคิํ อุทเกน นิพฺพาเปตฺวา สาขาหิ โปเถตฺวา อนฺโตหิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา เอกํ สามมิคิํ สีหสฺส จ พฺยคฺฆสฺส จ ทีปิโน จ มุขํ เลหนฺติํ ทิสฺวา ‘‘สปฺปุริเสหิ สทฺธิํ สนฺถวา ปรํ เสยฺโย นาม นตฺถี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

[24]

‘‘น สนฺถวสฺมา ปรมตฺถิ เสยฺโย, โย สนฺถโว สปฺปุริเสน โหติ;

สีหสฺส พฺยคฺฆสฺส จ ทีปิโน จ, สามา มุขํ เลหติ สนฺถเวนา’’ติฯ

ตตฺถ สามา มุขํ เลหติ สนฺถเวนาติ สามา นาม มิคี อิเมสํ ติณฺณํ ชนานํ สนฺถเวน สิเนเหน มุขํ เลหตีติฯ

เอวํ วตฺวา โพธิสตฺโต อนฺโตหิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ชีวิตปริโยสาเน พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘เตน สมเยน ตาปโส อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

สนฺถวชาตกวณฺณนา ทุติยาฯ

[163] 3. สุสีมชาตกวณฺณนา

กาฬา มิคา เสตทนฺตา ตวีเมติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ฉนฺทกทานํ อารพฺภ กเถสิฯ สาวตฺถิยญฺหิ กทาจิ เอกเมว กุลํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ เทติ, กทาจิ อญฺญติตฺถิยานํ เทติ, กทาจิ คณพนฺธเนน พหู เอกโต หุตฺวา เทนฺติ, กทาจิ วีถิสภาเคน, กทาจิ สกลนครวาสิโน ฉนฺทกํ สํหริตฺวา ทานํ เทนฺติฯ อิมสฺมิํ ปน กาเล สกลนครวาสิโน ฉนฺทกํ สํหริตฺวา สพฺพปริกฺขารทานํ สชฺเชตฺวา ทฺเว โกฏฺฐาสา หุตฺวา เอกจฺเจ ‘‘อิมํ สพฺพปริกฺขารทานํ อญฺญติตฺถิยานํ ทสฺสามา’’ติ อาหํสุ, เอกจฺเจ ‘‘พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติฯ

เอวํ ปุนปฺปุนํ กถาย วตฺตมานาย อญฺญติตฺถิยสาวเกหิ อญฺญติตฺถิยานญฺเญว , พุทฺธสาวเกหิ ‘‘‘พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺเสวา’ติ วุตฺเต สมฺพหุลํ กริสามา’’ติ สมฺพหุลาย กถาย ‘‘พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทสฺสามา’’ติ วทนฺตาเยว พหุกา ชาตา, เตสญฺเญว กถา ปติฏฺฐาสิ ฯ อญฺญติตฺถิยสาวกา พุทฺธานํ ทาตพฺพทานสฺส อนฺตรายํ กาตุํ นาสกฺขิํสุฯ นาครา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขาเร อทํสุฯ สตฺถา อนุโมทนํ กตฺวา มหาชนํ มคฺคผเลหิ ปโพเธตฺวา เชตวนวิหารเมว คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺเฆน วตฺเต ทสฺสิเต คนฺธกุฏิปฺปมุเข ฐตฺวา สุคโตวาทํ ทตฺวา คนฺธกุฏิํ ปาวิสิฯ

สายนฺหสมเย ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิปติตฺวา กถํ สมุฏฺฐาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อญฺญติตฺถิยสาวกา พุทฺธานํ ทาตพฺพทานสฺส อนฺตรายกรณตฺถาย วายมนฺตาปิ อนฺตรายํ กาตุํ นาสกฺขิํสุ, ตํ สพฺพปริกฺขารทานํ พุทฺธานํเยว ปาทมูลํ อาคตํ, อโห พุทฺธพลํ นาม มหนฺต’’นฺติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, เอเต อญฺญติตฺถิยสาวกา อิทาเนว มยฺหํ ทาตพฺพทานสฺส อนฺตรายกรณตฺถาย วายมนฺติ, ปุพฺเพปิ วายมิํสุ, โส ปน ปริกฺขาโร สพฺพกาเลปิ มเมว ปาทมูลํ อาคจฺฉตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ สุสีโม นาม ราชา อโหสิฯ ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธิํ คณฺหิ, ตสฺส โสฬสวสฺสิกกาเล ปิตา กาลมกาสิฯ โส ปน ธรมานกาเล รญฺโญ หตฺถิมงฺคลการโก อโหสิฯ หตฺถีนํ มงฺคลกรณฏฺฐาเน อาภตอุปกรณภณฺฑญฺจ หตฺถาลงฺการญฺจ สพฺพํ โสเยว อลตฺถฯ เอวมสฺส เอเกกสฺมิํ มงฺคเล โกฏิมตฺตํ ธนํ อุปฺปชฺชติฯ อถ ตสฺมิํ กาเล หตฺถิมงฺคลฉโณ สมฺปาปุณิฯ เสสา พฺราหฺมณา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มหาราช, หตฺถิมงฺคลฉโณ สมฺปตฺโต, มงฺคลํ กาตุํ วฏฺฏติฯ ปุโรหิตพฺราหฺมณสฺส ปน ปุตฺโต อติทหโร, เนว ตโย เวเท ชานาติ, น หตฺถิสุตฺตํ, มยํ หตฺถิมงฺคลํ กริสฺสามา’’ติ อาหํสุฯ ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิฯ พฺราหฺมณา ปุโรหิตปุตฺตสฺส หตฺถิมงฺคลํ กาตุํ อทตฺวา ‘‘หตฺถิมงฺคลํ กตฺวา มยํ ธนํ คณฺหิสฺสามา’’ติ หฏฺฐตุฏฺฐา วิจรนฺติฯ อถ ‘‘จตุตฺเถ ทิวเส หตฺถิมงฺคลํ ภวิสฺสตี’’ติ โพธิสตฺตสฺส มาตา ตํ ปวตฺติํ สุตฺวา ‘‘หตฺถิมงฺคลกรณํ นาม ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา อมฺหากํ วํโส, วํโส จ โน โอสกฺกิสฺสติ, ธนา จ ปริหายิสฺสามา’’ติ อนุโสจมานา ปโรทิฯ

โพธิสตฺโต ‘‘กสฺมา, อมฺม, โรทสี’’ติ วตฺวา ตํ การณํ สุตฺวา ‘‘นนุ, อมฺม, อหํ มงฺคลํ กริสฺสามี’’ติ อาหฯ ‘‘ตาต, ตฺวํ เนว ตโย เวเท ชานาสิ, น หตฺถิสุตฺตํ, กถํ มงฺคลํ กริสฺสสี’’ติฯ ‘‘อมฺม, กทา ปน หตฺถิมงฺคลํ กริสฺสตี’’ติ? ‘‘อิโต จตุตฺเถ ทิวเส, ตาตา’’ติฯ ‘‘อมฺม, ตโย ปน เวเท ปคุเณ กตฺวา หตฺถิสุตฺตํ ชานนกอาจริโย กหํ วสตี’’ติ? ‘‘ตาต, เอวรูโป ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย อิโต วีสโยชนสตมตฺถเก คนฺธารรฏฺเฐ ตกฺกสิลายํ วสตี’’ติฯ ‘‘อมฺม, อมฺหากํ วํสํ น นาเสสฺสามิ, อหํ สฺเว เอกทิวเสเนว ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา เอกรตฺเตเนว ตโย เวเท จ หตฺถิสุตฺตญฺจ อุคฺคณฺหิตฺวา ปุนทิวเส อาคนฺตฺวา จตุตฺเถ ทิวเส หตฺถิมงฺคลํ กริสฺสามิ, มา โรที’’ติ มาตรํ สมสฺสาเสตฺวา ปุนทิวเส โพธิสตฺโต ปาโตว ภุญฺชิตฺวา เอกโกว นิกฺขมิตฺวา เอกทิวเสเนว ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ

อถ นํ อาจริโย ‘‘กุโต อาคโตสิ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘พาราณสิโต, อาจริยา’’ติฯ ‘‘เกนตฺเถนา’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติเก ตโย เวเท จ หตฺถิสุตฺตญฺจ อุคฺคณฺหนตฺถายา’’ติฯ ‘‘สาธุ, ตาต, อุคฺคณฺหา’’ติฯ โพธิสตฺโต ‘‘อาจริย, มยฺหํ กมฺมํ อจฺจายิก’’นฺติ สพฺพํ ปวตฺติํ อาโรเจตฺวา ‘‘อหํ เอกทิวเสเนว วีสโยชนสตํ อาคโต, อชฺเชเวกรตฺติํ มยฺหเมว โอกาสํ กโรถ, อิโต ตติยทิวเส หตฺถิมงฺคลํ ภวิสฺสติ, อหํ เอเกเนว อุทฺเทสมคฺเคน สพฺพํ อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา อาจริยํ โอกาสํ กาเรตฺวา อาจริยสฺส ภุตฺตกาเล สยํ ภุญฺชิตฺวา อาจริยสฺส ปาเท โธวิตฺวา สหสฺสตฺถวิกํ ปุรโต ฐเปตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ปริยตฺติํ ปฏฺฐเปตฺวา อรุเณ อุคฺคจฺฉนฺเต ตโย เวเท จ หตฺถิสุตฺตญฺจ นิฏฺฐเปตฺวา ‘‘อญฺโญปิ อตฺถิ, อาจริยา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถิ ตาต, สพฺพํ นิฏฺฐิต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อาจริย, อิมสฺมิํ คนฺเถ เอตฺตกํ ปทปจฺจาภฏฺฐํ, เอตฺตกํ สชฺฌายสมฺโมหฏฺฐานํ, อิโต ปฏฺฐาย ตุมฺเห อนฺเตวาสิเก เอวํ วาเจยฺยาถา’’ติ อาจริยสฺส สิปฺปํ โสเธตฺวา ปาโตว ภุญฺชิตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา เอกทิวเสเนว พาราณสิํ ปจฺจาคนฺตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘อุคฺคหิตํ เต, ตาต, สิปฺป’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อาม, อมฺมา’’ติ วตฺวา มาตรํ ปริโตเสสิฯ

ปุนทิวเส หตฺถิมงฺคลฉโณ ปฏิยาทิยิตฺถฯ สตมตฺเต หตฺถิโสณฺฑาลงฺกาเร จ สุวณฺณทฺธเช เหมชาลสญฺฉนฺเน กตฺวา ฐเปสุํ, ราชงฺคณํ อลงฺกริํสุฯ พฺราหฺมณา ‘‘มยํ หตฺถิมงฺคลํ กริสฺสาม, มยํ กริสฺสามา’’ติ มณฺฑิตปสาธิตา อฏฺฐํสุฯ สุสีโมปิ ราชา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต อุปกรณภณฺฑํ คาหาเปตฺวา มงฺคลฏฺฐานํ อคมาสิฯ โพธิสตฺโตปิ กุมารปริหาเรน อลงฺกโต อตฺตโน ปริสาย ปุรกฺขตปริวาริโต รญฺโญ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร, มหาราช, ตุมฺเห อมฺหากํ วํสญฺจ อตฺตโน วํสญฺจ นาเสตฺวา ‘อญฺเญหิ พฺราหฺมเณหิ หตฺถิมงฺคลํ กาเรตฺวา หตฺถาลงฺการญฺจ อุปกรณานิ จ เตสํ ทสฺสามา’ติ อวจุตฺถา’’ติ วตฺวา ปฐมํ คาถมาห –

[25]

‘‘กาฬา มิคา เสตทนฺตา ตวีเม, ปโรสตํ เหมชาลาภิฉนฺนา;

เต เต ททามีติ สุสีม พฺรูสิ, อนุสฺสรํ เปตฺติปิตามหาน’’นฺติฯ

ตตฺถ เต เต ททามีติ สุสีม พฺรูสีติ เต เอเต ตว สนฺตเก ‘‘กาฬา มิคา เสตทนฺตา’’ติ เอวํ คเต ปโรสตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเต หตฺถี อญฺเญสํ พฺราหฺมณานํ ททามีติ สจฺจํ กิร, โภ สุสีม, เอวํ พฺรูสีติ อตฺโถฯ อนุสฺสรํ เปตฺติปิตามหานนฺติ อมฺหากญฺจ อตฺตโน จ วํเส ปิตุปิตามหานํ อาจิณฺณํ สรนฺโตเยวฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ยาว สตฺตมกุลปริวฏฺฏา ตุมฺหากํ เปตฺติปิตามหานํ อมฺหากํ เปตฺติปิตามหา จ หตฺถิมงฺคลํ กโรนฺติ, โส ตฺวํ เอวํ อนุสฺสรนฺโตปิ อมฺหากญฺจ อตฺตโน จ วํสํ นาเสตฺวา สจฺจํ กิร เอวํ พฺรูสีติฯ

สุสีโม ราชา โพธิสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

[26]

‘‘กาฬา มิคา เสตทนฺตา มมีเม, ปโรสตํ เหมชาลาภิฉนฺนา;

เต เต ททามีติ วทามิ มาณว, อนุสฺสรํ เปตฺติปิตามหาน’’นฺติฯ

ตตฺถ เต เต ททามีติ เต เอเต หตฺถี อญฺเญสํ พฺราหฺมณานํ ททามีติ สจฺจเมว มาณว วทามิ, เนว หตฺถี พฺราหฺมณานํ ททามีติ อตฺโถฯ อนุสฺสรนฺติ เปตฺติปิตามหานํ กิริยํ อนุสฺสรามิเยว, โน นานุสฺสรามิ, อมฺหากํ เปตฺติปิตามหานํ หตฺถิมงฺคลํ ตุมฺหากํ เปตฺติปิตามหา กโรนฺตีติ ปน อนุสฺสรนฺโตปิ เอวํ วทามิเยวาติ อธิปฺปาเยเนวมาหฯ

อถ นํ โพธิสตฺโต เอตทโวจ – ‘‘มหาราช, อมฺหากญฺจ อตฺตโน จ วํสํ อนุสฺสรนฺโตเยว กสฺมา มํ ฐเปตฺวา อญฺเญหิ หตฺถิมงฺคลํ การาเปถา’’ติฯ ‘‘ตฺวํ กิร, ตาต, ตโย เวเท หตฺถิสุตฺตญฺจ น ชานาสี’’ติ มยฺหํ อาโรเจสุํ, เตนาหํ อญฺเญหิ พฺราหฺมเณหิ การาเปมีติฯ ‘‘เตน หิ, มหาราช, เอตฺตเกสุ พฺราหฺมเณสุ เอกพฺราหฺมโณปิ ตีสุ เวเทสุ วา หตฺถิสุตฺเตสุ วา เอกเทสมฺปิ ยทิ มยา สทฺธิํ กเถตุํ สมตฺโต อตฺถิ, อุฏฺฐหตุ, ตโยปิ เวเท หตฺถิสุตฺตญฺจ สทฺธิํ หตฺถิมงฺคลกรเณน มํ ฐเปตฺวา อญฺโญ สกลชมฺพุทีเปปิ ชานนฺโต นาม นตฺถี’’ติ สีหนาทํ นทิฯ เอกพฺราหฺมโณปิ ตสฺส ปฏิสตฺตุ หุตฺวา อุฏฺฐาตุํ นาสกฺขิฯ โพธิสตฺโต อตฺตโน กุลวํสํ ปติฏฺฐาเปตฺวา มงฺคลํ กตฺวา พหุํ ธนํ อาทาย อตฺตโน นิเวสนํ อคมาสิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน เกจิ โสตาปนฺนา อเหสุํ, เกจิ สกทาคามิโน, เกจิ อนาคามิโน, เกจิ อรหตฺตํ ปาปุณิํสุฯ ‘‘ตทา มาตา มหามายา อโหสิ, ปิตา สุทฺโธทนมหาราชา, สุสีโม ราชา อานนฺโท, ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย สาริปุตฺโต, มาณโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

สุสีมชาตกวณฺณนา ตติยาฯ

[164] 4. คิชฺฌชาตกวณฺณนา

ยํ นุ คิชฺโฌ โยชนสตนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ สามชาตเก (ชา. 2.22.296 อาทโย) อาวิภวิสฺสติฯ สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, คิหี โปเสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กิํ ปน เต โหนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มาตาปิตโร เม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ สาธู’’ติ ตสฺส สาธุการํ ทตฺวา ‘‘มา, ภิกฺขเว, อิมํ ภิกฺขุํ อุชฺฌายิตฺถ, โปราณกปณฺฑิตาปิ คุณวเสน อญฺญาตกานมฺปิ อุปการํ อกํสุ, อิมสฺส ปน มาตาปิตูนํ อุปการกรณํ ภาโรเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต คิชฺฌกูฏปพฺพเต คิชฺฌโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา มาตาปิตโร โปเสติฯ อเถกสฺมิํ กาเล มหตี วาตวุฏฺฐิ อโหสิฯ คิชฺฌา วาตวุฏฺฐิํ สหิตุํ อสกฺโกนฺตา สีตภเยน พาราณสิํ คนฺตฺวา ปาการสมีเป จ ปริขาสมีเป จ สีเตน กมฺปมานา นิสีทิํสุฯ ตทา พาราณสิเสฏฺฐิ นครา นิกฺขมิตฺวา นฺหายิตุํ คจฺฉนฺโต เต คิชฺเฌ กิลมนฺเต ทิสฺวา เอกสฺมิํ อโนวสฺสกฏฺฐาเน สนฺนิปาเตตฺวา อคฺคิํ การาเปตฺวา โคสุสานํ เปเสตฺวา โคมํสํ อาหราเปตฺวา เตสํ ทาเปตฺวา อารกฺขํ ฐเปสิฯ คิชฺฌา วูปสนฺตาย วาตวุฏฺฐิยา กลฺลสรีรา หุตฺวา ปพฺพตเมว อคมํสุฯ เต ตตฺเถว สนฺนิปติตฺวา เอวํ มนฺตยิํสุ – ‘‘พาราณสิเสฏฺฐินา อมฺหากํ อุปกาโร กโต, กตูปการสฺส จ นาม ปจฺจุปการํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา อิโต ปฏฺฐาย ตุมฺเหสุ โย ยํ วตฺถํ วา อาภรณํ วา ลภติ, เตน ตํ พาราณสิเสฏฺฐิสฺส เคเห อากาสงฺคเณ ปาเตตพฺพ’’นฺติฯ

ตโต ปฏฺฐาย คิชฺฌา มนุสฺสานํ วตฺถาภรณานิ อาตเป สุกฺขาเปนฺตานํ ปมาทํ โอโลเกตฺวา เสนา วิย มํสเปสิํ สหสา คเหตฺวา พาราณสิเสฏฺฐิสฺส เคเห อากาสงฺคเณ ปาเตนฺติฯ โส คิชฺฌานํ อาหรณภาวํ ญตฺวา สพฺพานิ ตานิ วิสุํเยว ฐเปสิฯ ‘‘คิชฺฌา นครํ วิลุมฺปนฺตี’’ติ รญฺโญ อาโรเจสุํฯ ราชา ‘‘เอกํ คิชฺฌมฺปิ ตาว คณฺหถ, สพฺพํ อาหราเปสฺสามี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ ปาเส เจว ชาลานิ จ โอฑฺฑาเปสิฯ

มาตุโปสกคิชฺโฌ ปาเส พชฺฌิ, ตํ คเหตฺวา ‘‘รญฺโญ ทสฺเสสฺสามา’’ติ เนนฺติฯ พาราณสิเสฏฺฐิ ราชุปฏฺฐานํ คจฺฉนฺโต เต มนุสฺเส คิชฺฌํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘มา อิมํ คิชฺฌํ พาธยิํสู’’ติ สทฺธิญฺเญว อคมาสิฯ คิชฺฌํ รญฺโญ ทสฺเสสุํฯ อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘ตุมฺเห นครํ วิลุมฺปิตฺวา วตฺถาทีนิ คณฺหถา’’ติฯ ‘‘อาม, มหาราชา’’ติฯ ‘‘กสฺส ตานิ ทินฺนานี’’ติ? ‘‘พาราณสิเสฏฺฐิสฺสา’’ติฯ ‘‘กิํการณา’’ติ? ‘‘อมฺหากํ เตน ชีวิตํ ทฺวินฺนํ, อุปการสฺส นาม ปจฺจุปการํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา อทมฺหา’’ติฯ อถ นํ ราชา ‘‘คิชฺฌา กิร โยชนสตมตฺถเก ฐตฺวา กุณปํ ปสฺสนฺติ, กสฺมา ตฺวํ อตฺตโน โอฑฺฑิตํ ปาสํ น ปสฺสสี’’ติ วตฺวา ปฐมํ คาถมาห –

[27]

‘‘ยํ นุ คิชฺโฌ โยชนสตํ, กุณปานิ อเวกฺขติ;

กสฺมา ชาลญฺจ ปาสญฺจ, อาสชฺชาปิ น พุชฺฌสี’’ติฯ

ตตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, นูติ นามตฺเถ นิปาโตฯ คิชฺโฌ นาม โยชนสตํ อติกฺกมิตฺวา ฐิตานิ กุณปานิ อเวกฺขติ, ปสฺสตีติ อตฺโถฯ อาสชฺชาปีติ อาสาเทตฺวาปิ, สมฺปาปุณิตฺวาปีติ อตฺโถฯ ‘‘ตฺวํ อตฺตโน อตฺถาย โอฑฺฑิตํ ชาลญฺจ ปาสญฺจ ปตฺวาปิ กสฺมา น พุชฺฌสี’’ติ ปุจฺฉิฯ

คิชฺโฌ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

[28]

‘‘ยทา ปราภโว โหติ, โปโส ชีวิตสงฺขเย;

อถ ชาลญฺจ ปาสญฺจ, อาสชฺชาปิ น พุชฺฌตี’’ติฯ

ตตฺถ ปราภโวติ วินาโสฯ โปโสติ สตฺโตฯ

คิชฺฌสฺส วจนํ สุตฺวา ราชา เสฏฺฐิํ ปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร, มหาเสฏฺฐิ, คิชฺเฌหิ ตุมฺหากํ เคเห วตฺถาทีนิ อาภตานี’’ติฯ ‘‘สจฺจํ, เทวา’’ติฯ ‘‘กหํ ตานี’’ติ? ‘‘เทว, มยา ตานิ สพฺพานิ วิสุํ ฐปิตานิ, ยํ เยสํ สนฺตกํ, ตํ เตสํ ทสฺสามิ, อิมํ คิชฺฌํ วิสฺสชฺเชถา’’ติ คิชฺฌํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา มหาเสฏฺฐิํ สพฺเพสํ สนฺตกานิ ทาเปสิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิ ฯ ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, พาราณสิเสฏฺฐิ สาริปุตฺโต, มาตุโปสกคิชฺโฌ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

คิชฺฌชาตกวณฺณนา จตุตฺถาฯ

[165] 5. นกุลชาตกวณฺณนา

สทฺธิํ กตฺวา อมิตฺเตนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เสณิภณฺฑนํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ เหฏฺฐา อุรคชาตเก (ชา. 1.2.7-8) กถิตสทิสเมวฯ อิธาปิ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิเม ทฺเว มหามตฺตา อิทาเนว มยา สมคฺคา กตา, ปุพฺเพปาหํ อิเม สมคฺเค อกาสิํเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เอกสฺมิํ คามเก พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคเหตฺวา ฆราวาสํ ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา อุญฺฉาจริยาย วนมูลผลาหาโร หิมวนฺตปเทเส วาสํ กปฺเปสิฯ ตสฺส จงฺกมนโกฏิยํ เอกสฺมิํ วมฺมิเก นกุโล, ตสฺเสว สนฺติเก เอกสฺมิํ รุกฺขพิเล สปฺโป จ วาสํ กปฺเปสิฯ เต อุโภปิ อหินกุลา นิจฺจกาลํ กลหํ กโรนฺติฯ โพธิสตฺโต เตสํ กลเห อาทีนวญฺจ เมตฺตาภาวนาย จ อานิสํสํ กเถตฺวา ‘‘กลหํ นาม อกตฺวา สมคฺควาสํ วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ โอวทิตฺวา อุโภปิ เต สมคฺเค อกาสิฯ อถ สปฺปสฺส พหินิกฺขนฺตกาเล นกุโล จงฺกมนโกฏิยํ วมฺมิกสฺส พิลทฺวาเร สีสํ นีหริตฺวา มุขํ วิวริตฺวา นิปนฺโน อสฺสสนฺโต ปสฺสสนฺโต นิทฺทํ อุปคญฺฉิฯ โพธิสตฺโต ตํ ตถา นิทฺทายมานํ ทิสฺวา ‘‘กิํ นุ โข เต นิสฺสาย ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ปฐมํ คาถมาห –

[29]

‘‘สนฺธิํ กตฺวา อมิตฺเตน, อณฺฑเชน ชลาพุช;

วิวริย ทาฐํ เสสิ, กุโต เต ภยมาคต’’นฺติฯ

ตตฺถ สนฺธิํ กตฺวาติ มิตฺตภาวํ กริตฺวาฯ อณฺฑเชนาติ อณฺฑโกเส นิพฺพตฺเตน นาเคนฯ ชลาพุชาติ นกุลํ อาลปติฯ โส หิ ชลาพุมฺหิ ชาตตฺตา ‘‘ชลาพุโช’’ติ วุจฺจติฯ วิวริยาติ วิวริตฺวาฯ

เอวํ โพธิสตฺเตน วุตฺโต นกุโล ‘‘อยฺย, ปจฺจามิตฺโต นาม น อวชานิตพฺโพ อาสงฺกิตพฺโพเยวา’’ติ วตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

[30]

‘‘สงฺเกเถว อมิตฺตสฺมิํ, มิตฺตสฺมิมฺปิ น วิสฺสเส;

อภยา ภยมุปฺปนฺนํ, อปิ มูลานิ กนฺตตี’’ติฯ

ตตฺถ อภยา ภยมุปฺปนฺนนฺติ น อิโต เต ภยมุปฺปนฺนนฺติ อภโย, โก โส? มิตฺโตฯ ยญฺหิ มิตฺตสฺมิมฺปิ วิสฺสาเส สติ ตโต ภยํ อุปฺปชฺชติ, ตํ มูลานิปิ กนฺตติ, มิตฺตสฺส สพฺพรนฺธานํ วิทิตตฺตา มูลฆจฺจาย สํวตฺตตีติ อตฺโถฯ

อถ นํ โพธิสตฺโต ‘‘มา ภายิ, ยถา สปฺโป ตยิ น ทุพฺภติ, เอวมหํ กริสฺสามิ, ตฺวํ อิโต ปฏฺฐาย ตสฺมิํ อาสงฺกํ มา กรี’’ติ โอวทิตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิฯ เตปิ ยถากมฺมํ คตาฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สปฺโป จ นกุโล จ อิเม ทฺเว มหามตฺตา อเหสุํ, ตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

นกุลชาตกวณฺณนา ปญฺจมาฯ

[166] 6. อุปสาฬกชาตกวณฺณนา

อุปสาฬกนามานีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เอกํ อุปสาฬกํ นาม สุสานสุทฺธิกํ พฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิฯ โส กิร อฑฺโฒ อโหสิ มหทฺธโน, ทิฏฺฐิคติกตฺตา ปน ธุรวิหาเร วสนฺตานมฺปิ พุทฺธานํ สงฺคหํ นาม น อกาสิฯ ปุตฺโต ปนสฺส ปณฺฑิโต อโหสิ ญาณสมฺปนฺโนฯ

โส มหลฺลกกาเล ปุตฺตํ อาห – ‘‘มา โข มํ, ตาต, อญฺญสฺส วสลสฺส ฌาปิตสุสาเน ฌาเปหิ, เอกสฺมิํ ปน อนุจฺฉิฏฺฐสุสาเนเยว มํ ฌาเปยฺยาสี’’ติฯ ‘‘ตาต, อหํ ตุมฺหากํ ฌาเปตพฺพยุตฺตกํ ฐานํ น ชานามิ, สาธุ วต มํ อาทาย คนฺตฺวา ‘อิมสฺมิํ ฐาเน มํ ฌาเปยฺยาสี’ติ ตุมฺเหว อาจิกฺขถา’’ติฯ พฺราหฺมโณ ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ตํ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา คิชฺฌกูฏมตฺถกํ อภิรุหิตฺวา ‘‘ตาต, อิทํ อญฺญสฺส วสลสฺส อฌาปิตฏฺฐานํ, เอตฺถ มํ ฌาเปยฺยาสี’’ติ วตฺวา ปุตฺเตน สทฺธิํ ปพฺพตา โอตริตุํ อารภิฯ

สตฺถา ปน ตํ ทิวสํ ปจฺจูสกาเล โพธเนยฺยพนฺธเว โอโลเกนฺโต เตสํ ปิตาปุตฺตานํ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อุปนิสฺสยํ อทฺทสฯ ตสฺมา มคฺคํ คเหตฺวา ฐิตลุทฺทโก วิย ปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา เตสํ ปพฺพตมตฺถกา โอตรนฺตานํ อาคมยมาโน นิสีทิ, เต โอตรนฺตา สตฺถารํ อทฺทสํสุฯ สตฺถา ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต ‘‘กหํ คมิสฺสถ พฺราหฺมณา’’ติ ปุจฺฉิฯ มาณโว ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ สตฺถา ‘‘เตน หิ เอหิ, ตว ปิตรา อาจิกฺขิตฏฺฐานํ คจฺฉามา’’ติ อุโภ ปิตาปุตฺเต คเหตฺวา ปพฺพตมตฺถกํ อารุยฺห ‘‘กตรํ ฐาน’’นฺติ ปุจฺฉิฯ มาณโว ‘‘อิเมสํ ติณฺณํ ปพฺพตานํ อนฺตรํ อาจิกฺขิ, ภนฺเต’’ติ อาหฯ สตฺถา ‘‘น โข, มาณว, ตว ปิตา อิทาเนว สุสานสุทฺธิโก, ปุพฺเพปิ สุสานสุทฺธิโกว, น เจส อิทาเนว ‘อิมสฺมิํ ฐาเน มํ ฌาเปยฺยาสี’ติ ตว อาจิกฺขติ, ปุพฺเพปิ อิมสฺมิํเยว ฐาเน อตฺตโน ฌาปิตภาวํ อาจิกฺขี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ

อตีเต อิมสฺมิญฺเญว ราชคเห อยเมว อุปสาฬโก พฺราหฺมโณ อยเมวสฺส ปุตฺโต อโหสิฯ ตทา โพธิสตฺโต มคธรฏฺเฐ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปริปุณฺณสิปฺโป อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานกีฬํ กีฬนฺโต หิมวนฺตปเทเส จิรํ วสิตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย คิชฺฌกูเฏ ปณฺณสาลายํ วิหาสิฯ ตทา โส พฺราหฺมโณ อิมินาว นิยาเมน ปุตฺตํ วตฺวา ปุตฺเตน ‘‘ตุมฺเหเยว เม ตถารูปํ ฐานํ อาจิกฺขถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิทเมว ฐาน’’นฺติ อาจิกฺขิตฺวา ปุตฺเตน สทฺธิํ โอตรนฺโต โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ตสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมิฯ

โพธิสตฺโต อิมินาว นิยาเมน ปุจฺฉิตฺวา มาณวสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เอหิ, ตว ปิตรา อาจิกฺขิตฏฺฐานสฺส อุจฺฉิฏฺฐภาวํ วา อนุจฺฉิฏฺฐภาวํ วา ชานิสฺสามา’’ติ เตหิ สทฺธิํ ปพฺพตมตฺถกํ อารุยฺห ‘‘อิทํ ติณฺณํ ปพฺพตานํ อนฺตรํ อนุจฺฉิฏฺฐฏฺฐาน’’นฺติ มาณเวน วุตฺเต ‘‘มาณว, อิมสฺมิํเยว ฐาเน ฌาปิตกานํ ปมาณํ นตฺถิ, ตเวว ปิตา อิมสฺมิํเยว ราชคเห พฺราหฺมณกุเลเยว นิพฺพตฺติตฺวา อุปสาฬโกเยว นาม หุตฺวา อิมสฺมิํเยว ปพฺพตนฺตเร จุทฺทส ชาติสหสฺสานิ ฌาปิโตฯ ปถวิยญฺหิ อฌาปิตฏฺฐานํ วา อสุสานฏฺฐานํ วา สีสานํ อนิเวสิตฏฺฐานํ วา ลทฺธุํ น สกฺกา’’ติ ปุพฺเพนิวาสญาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อิมํ คาถาทฺวยมาห –

[31]

‘‘อุปสาฬกนามานิ , สหสฺสานิ จตุทฺทส;

อสฺมิํ ปเทเส ทฑฺฒานิ, นตฺถิ โลเก อนามตํฯ

[32]

‘‘ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ, อหิํสา สํยโม ทโม;

เอตํ อริยา เสวนฺติ, เอตํ โลเก อนามต’’นฺติฯ

ตตฺถ อนามตนฺติ มตฏฺฐานํฯ ตญฺหิ อุปจารวเสน ‘‘อมต’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘อนามต’’นฺติ อาหฯ ‘‘อนมต’’นฺติปิ ปาโฐ, โลกสฺมิญฺหิ อนมตฏฺฐานํ อสุสานํ นาม นตฺถีติ อตฺโถฯ ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จาติ ยสฺมิํ ปุคฺคเล จตุสจฺจวตฺถุกํ ปุพฺพภาคสจฺจญาณญฺจ โลกุตฺตรธมฺโม จ อตฺถิฯ อหิํสาติ ปเรสํ อวิเหสา อวิเหฐนาฯ สํยโมติ สีลสํยโมฯ ทโมติ อินฺทฺริยทมนํฯ อิทญฺจ คุณชาตํ ยมฺหิ ปุคฺคเล อตฺถิ, เอตํ อริยา เสวนฺตีติ, อริยา พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ เอตํ ฐานํ เสวนฺติ, เอวรูปํ ปุคฺคลํ อุปสงฺกมนฺติ ภชนฺตีติ อตฺโถฯ เอตํ โลเก อนามตนฺติ เอตํ คุณชาตํ โลเก อมตภาวสาธนโต อนามตํ นามฯ

เอวํ โพธิสตฺโต ปิตาปุตฺตานํ ธมฺมํ เทเสตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุโภ ปิตาปุตฺตา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิํสุฯ ‘‘ตทา ปิตาปุตฺตาว เอตรหิ ปิตาปุตฺตา อเหสุํ, ตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

อุปสาฬกชาตกวณฺณนา ฉฏฺฐาฯ

[167] 7. สมิทฺธิชาตกวณฺณนา

อภุตฺวา ภิกฺขสิ ภิกฺขูติ อิทํ สตฺถา ราชคหํ อุปนิสฺสาย ตโปทาราเม วิหรนฺโต สมิทฺธิเถรํ อารพฺภ กเถสิฯ เอกทิวสญฺหิ อายสฺมา สมิทฺธิ สพฺพรตฺติํ ปธานํ ปทหิตฺวา อรุณุคฺคมนเวลาย นฺหตฺวา สุวณฺณวณฺณํ อตฺตภาวํ สุกฺขาปยมาโน อนฺตรวาสกํ นิวาเสตฺวา อุตฺตราสงฺคํ หตฺเถน คเหตฺวา อฏฺฐาสิ สุปริกมฺมกตา วิย สุวณฺณปฏิมาฯ อตฺตภาวสมิทฺธิยาเยว หิสฺส ‘‘สมิทฺธี’’ติ นามํ อโหสิฯ อถสฺส สรีรโสภคฺคํ ทิสฺวา เอกา เทวธีตา ปฏิพทฺธจิตฺตา เถรํ เอวมาห – ‘‘ตฺวํ โขสิ, ภิกฺขุ, ทหโร ยุวา สุสุ กาฬเกโส ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก, เอวรูปสฺส ตว กาเม อปริภุญฺชิตฺวา โก อตฺโถ ปพฺพชฺชาย, กาเม ตาว ปริภุญฺชสฺสุ, ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กริสฺสสี’’ติฯ อถ นํ เถโร อาห – ‘‘เทวธีเต, ‘อสุกสฺมิํ นาม วเย ฐิโต มริสฺสามี’ติ มม มรณกาลํ น ชานามิ, เอส เม กาโล ปฏิจฺฉนฺโน, ตสฺมา ตรุณกาเลเยว สมณธมฺมํ กตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’’ติฯ สา เถรสฺส สนฺติกา ปฏิสนฺถารํ อลภิตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิฯ เถโร สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ สตฺถา ‘‘น โข, สมิทฺธิ, ตฺวญฺเญว เอตรหิ เทวธีตาย ปโลภิโต, ปุพฺเพปิ เทวธีตโร ปพฺพชิเต ปโลภิํสุเยวา’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เอกสฺมิํ กาสิคามเก พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺติํ ปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา หิมวนฺตปเทเส เอกํ ชาตสฺสรํ นิสฺสาย วาสํ กปฺเปสิฯ โส สพฺพรตฺติํ ปธานํ ปทหิตฺวา อรุณุคฺคมนเวลาย นฺหตฺวา เอกํ วกฺกลํ นิวาเสตฺวา เอกํ หตฺเถน คเหตฺวา สรีรํ โวทกํ กโรนฺโต อฏฺฐาสิฯ อถสฺส รูปโสภคฺคปฺปตฺตํ อตฺตภาวํ โอโลเกตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา เอกา เทวธีตา โพธิสตฺตํ ปโลภยมานา ปฐมํ คาถมาห –

[33]

‘‘อภุตฺวา ภิกฺขสิ ภิกฺขุ, น หิ ภุตฺวาน ภิกฺขสิ;

ภุตฺวาน ภิกฺขุ ภิกฺขสฺสุ, มา ตํ กาโล อุปจฺจคา’’ติฯ

ตตฺถ อภุตฺวา ภิกฺขสิ ภิกฺขูติ ภิกฺขุ ตฺวํ ทหรกาเล กิเลสกามวเสน วตฺถุกาเม อภุตฺวาว ภิกฺขาย จรสิฯ น หิ ภุตฺวาน ภิกฺขสีติ นนุ นาม ปญฺจ กามคุเณ ภุตฺวา ภิกฺขาย จริตพฺพํ, กาเม อภุตฺวาว ภิกฺขาจริยํ อุปคโตสิฯ ภุตฺวาน ภิกฺขุ ภิกฺขสฺสูติ ภิกฺขุ ทหรกาเล ตาว กาเม ภุญฺชิตฺวา ปจฺฉา มหลฺลกกาเล ภิกฺขสฺสุฯ มา ตํ กาโล อุปจฺจคาติ อยํ กาเม ภุญฺชนกาโล ทหรกาโล, ตํ มา อติกฺกมตูติฯ

โพธิสตฺโต เทวตาย วจนํ สุตฺวา อตฺตโน อชฺฌาสยํ ปกาเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

[34]

‘‘กาลํ โวหํ น ชานามิ, ฉนฺโน กาโล น ทิสฺสติ;

ตสฺมา อภุตฺวา ภิกฺขามิ, มา มํ กาโล อุปจฺจคา’’ติฯ

ตตฺถ กาลํ โวหํ น ชานามีติ โวติ นิปาตมตฺตํฯ อหํ ปน ‘‘ปฐมวเย วา มยา มริตพฺพํ มชฺฌิมวเย วา ปจฺฉิมวเย วา’’ติ เอวํ อตฺตโน มรณกาลํ น ชานามิฯ ปณฺฑิเตน หิ ปุคฺคเลน –

‘‘ชีวิตํ พฺยาธิ กาโล จ, เทหนิกฺเขปนํ คติ;

ปญฺเจเต ชีวโลกสฺมิํ, อนิมิตฺตา น นายเร’’ติฯ

ฉนฺโน กาโล น ทิสฺสตีติ ยสฺมา ‘‘อสุกสฺมิํ นาม วยกาเล เหมนฺตาทิอุตุกาเล วา มยา มริตพฺพ’’นฺติ มยฺหมฺเปส ฉนฺโน หุตฺวา กาโล น ทิสฺสติ, สุปฺปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา ฐิโต น ปญฺญายติฯ ตสฺมา อภุตฺวา ภิกฺขามีติ เตน การเณน ปญฺจ กามคุเณ อภุตฺวา ภิกฺขามิฯ มา มํ กาโล อุปจฺจคาติ มํ สมณธมฺมกรณกาโล มา อติกฺกมตูติ อตฺโถฯ อิมินา การเณน ทหโรว สมาโน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรมีติฯ เทวธีตา โพธิสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เทวธีตา อยํ เทวธีตา อโหสิ, อหเมว เตน สมเยน ตาปโส อโหสิ’’นฺติฯ

สมิทฺธิชาตกวณฺณนา สตฺตมาฯ

[168] 8. สกุณคฺฆิชาตกวณฺณนา

เสโน พลสา ปตมาโนติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตชฺฌาสยํ สกุโณวาทสุตฺตํ (สํ. นิ. 5.372) อารพฺภ กเถสิฯ เอกทิวสญฺหิ สตฺถา ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย’’ติ (สํ. นิ. 5.372) อิมํ สํยุตฺตมหาวคฺเค สุตฺตนฺตํ กเถนฺโต ‘‘ตุมฺเห ตาว ติฏฺฐถ, ปุพฺเพ ติรจฺฉานคตาปิ สกํ เปตฺติกวิสยํ ปหาย อโคจเร จรนฺตา ปจฺจามิตฺตานํ หตฺถปถํ คนฺตฺวาปิ อตฺตโน ปญฺญาสมฺปตฺติยา อุปายโกสลฺเลน ปจฺจามิตฺตานํ หตฺถา มุจฺจิํสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ลาปสกุณโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา นงฺคลกฏฺฐกรเณ เลฑฺฑุฏฺฐาเน วาสํ กปฺเปสิฯ โส เอกทิวสํ ‘‘สกวิสเย โคจรคหณํ ปหาย ปรวิสเย โคจรํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อฏวิปริยนฺตํ อคมาสิฯ อถ นํ ตตฺถ โคจรํ คณฺหนฺตํ ทิสฺวา สกุณคฺฆิ สหสา อชฺฌปฺปตฺตา อคฺคเหสิฯ โส สกุณคฺฆิยา หริยมาโน เอวํ ปริเทวสิ – ‘‘มยเมวมฺห อลกฺขิกา, มยํ อปฺปปุญฺญา, เย มยํ อโคจเร จริมฺห ปรวิสเย, สเจชฺช มยํ โคจเร จเรยฺยาม สเก เปตฺติเก วิสเย, น มฺยายํ สกุณคฺฆิ อลํ อภวิสฺส ยทิทํ ยุทฺธายา’’ติฯ ‘‘โก ปน, เต ลาป, โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย’’ติ? ‘‘ยทิทํ นงฺคลกฏฺฐกรณํ เลฑฺฑุฏฺฐาน’’นฺติฯ อถ นํ สกุณคฺฆิ สเก พเล อปตฺถทฺธา อมุญฺจิ – ‘‘คจฺฉ โข, ตฺวํ ลาป, ตตฺรปิ เม คนฺตฺวา น โมกฺขสี’’ติฯ โส ตตฺถ คนฺตฺวา มหนฺตํ เลฑฺฑุํ อภิรุหิตฺวา ‘‘เอหิ โข ทานิ สกุณคฺฆี’’ติ เสนํ อวฺหยนฺโต อฏฺฐาสิฯ สกุณคฺฆิ สเก พเล อปตฺถทฺธา อุโภ ปกฺเข สนฺนยฺห ลาปสกุณํ สหสา อชฺฌปฺปตฺตาฯ ยทา ปน ตํ ลาโป ‘‘พหุอาคตา โข มฺยายํ สกุณคฺฆี’’ติ อญฺญาสิ, อถ ปริวตฺติตฺวา ตสฺเสว เลฑฺฑุสฺส อนฺตรํ ปจฺจาปาทิฯ สกุณคฺฆิ เวคํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ตตฺเถว อุรํ ปจฺจตาเฬสิฯ เอวํ สา ภินฺเนน หทเยน นิกฺขนฺเตหิ อกฺขีหิ ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิฯ

สตฺถา อิมํ อตีตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตาปิ อโคจเร จรนฺตา สปตฺตหตฺถํ คจฺฉนฺติ, โคจเร ปน สเก เปตฺติเก วิสเย จรนฺตา สปตฺเต นิคฺคณฺหนฺติ, ตสฺมา ตุมฺเหปิ มา อโคจเร จรถ ปรวิสเยฯ

อโคจเร , ภิกฺขเว, จรตํ ปรวิสเย ลจฺฉติ มาโร โอตารํ, ลจฺฉติ มาโร อารมฺมณํฯ โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อโคจโร ปรวิสโย? ยทิทํ ปญฺจ กามคุณาฯ กตเม ปญฺจ? จกฺขุวิญฺเญยฺยา รูปา…เป.… อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อโคจโร ปรวิสโย’’ติ วตฺวา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปฐมํ คาถมาห –

[35]

‘‘เสโน พลสา ปตมาโน, ลาปํ โคจรฐายินํ;

สหสา อชฺฌปฺปตฺโตว, มรณํ เตนุปาคมี’’ติฯ

ตตฺถ พลสา ปตมาโนติ ‘‘ลาปํ คณฺหิสฺสามี’’ติ พเลน ถาเมน ปตมาโนฯ โคจรฐายินนฺติ สกวิสยา นิกฺขมิตฺวา โคจรตฺถาย อฏวิปริยนฺเต ฐิตํฯ อชฺฌปฺปตฺโตติ สมฺปตฺโตฯ มรณํ เตนุปาคมีติ เตน การเณน มรณํ ปตฺโตฯ

ตสฺมิํ ปน มรณํ ปตฺเต ลาโป นิกฺขมิตฺวา ‘‘ทิฏฺฐา วต เม ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺฐี’’ติ ตสฺส หทเย ฐตฺวา อุทานํ อุทาเนนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

[36]

‘‘โสหํ นเยน สมฺปนฺโน, เปตฺติเก โคจเร รโต;

อเปตสตฺตุ โมทามิ, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน’’ติฯ

ตตฺถ นเยนาติ อุปาเยนฯ อตฺถมตฺตโนติ อตฺตโน อโรคภาวสงฺขาตํ วุฑฺฒิํฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน พหู ภิกฺขู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสุฯ ‘‘ตทา เสโน เทวทตฺโต อโหสิ, ลาโป ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

สกุณคฺฆิชาตกวณฺณนา อฏฺฐมาฯ

[169] 9. อรกชาตกวณฺณนา

โย เว เมตฺเตน จิตฺเตนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เมตฺตสุตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ เอกสฺมิญฺหิ สมเย สตฺถา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เมตฺตาย, ภิกฺขเว, เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺฐิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย เอกาทสานิสํสา ปาฏิกงฺขาฯ กตเม เอกาทส? สุขํ สุปติ, สุขํ ปฏิพุชฺฌติ, น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, มนุสฺสานํ ปิโย โหติ, อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ, เทวตา รกฺขนฺติ, นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมติ, ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยติ, มุขวณฺโณ วิปฺปสีทติ, อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต พฺรหฺมโลกูปโค โหติฯ เมตฺตาย, ภิกฺขเว, เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย…เป.… สุสมารทฺธาย อิเม เอกาทสานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ (อ. นิ. 11.15)ฯ อิเม เอกาทสานิสํเส คเหตฺวา ฐิตํ เมตฺตาภาวนํ วณฺเณตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา นาม สพฺพสตฺเตสุ โอทิสฺสกาโนทิสฺสกวเสน เมตฺตา ภาเวตพฺพา, หิโตปิ หิเตน ผริตพฺโพ, อหิโตปิ หิเตน ผริตพฺโพ, มชฺฌตฺโตปิ หิเตน ผริตพฺโพฯ เอวํ สพฺพสตฺเตสุ โอทิสฺสกาโนทิสฺสกวเสน เมตฺตา ภาเวตพฺพา, กรุณา มุทิตา อุเปกฺขา ภาเวตพฺพา, จตูสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ กมฺมํ กาตพฺพเมวฯ เอวํ กโรนฺโต หิ มคฺคํ วา ผลํ วา อลภนฺโตปิ พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ, โปราณกปณฺฑิตาปิ สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป พฺรหฺมโลกสฺมิํเยว วสิํสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

อตีเต เอกสฺมิํ กปฺเป โพธิสตฺโต พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต กาเม ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา จตุนฺนํ พฺรหฺมวิหารานํ ลาภี อรโก นาม สตฺถา หุตฺวา หิมวนฺตปเทเส วาสํ กปฺเปสิ, ตสฺส มหา ปริวาโร อโหสิฯ โส อิสิคณํ โอวทนฺโต ‘‘ปพฺพชิเตน นาม เมตฺตา ภาเวตพฺพา, กรุณา มุทิตา อุเปกฺขา ภาเวตพฺพาฯ เมตฺตจิตฺตญฺหิ นาเมตํ อปฺปนาปฺปตฺตํ พฺรหฺมโลกปรายณตํ สาเธตี’’ติ เมตฺตาย อานิสํสํ ปกาเสนฺโต อิมา คาถา อาห –

[37]

‘‘โย เว เมตฺเตน จิตฺเตน, สพฺพโลกานุกมฺปติ;

อุทฺธํ อโธ จ ติริยํ, อปฺปมาเณน สพฺพโสฯ

[38]

‘‘อปฺปมาณํ หิตํ จิตฺตํ, ปริปุณฺณํ สุภาวิตํ;

ยํ ปมาณกตํ กมฺมํ, น ตํ ตตฺราวสิสฺสตี’’ติฯ

ตตฺถ โย เว เมตฺเตน จิตฺเตน, สพฺพโลกานุกมฺปตีติ ขตฺติยาทีสุ วา สมณพฺราหฺมเณสุ วา โย โกจิ อปฺปมาเณน เมตฺเตน จิตฺเตน สกลํ สตฺตโลกํ อนุกมฺปติฯ อุทฺธนฺติ ปถวิโต ยาว เนวสญฺญานาสญฺญายตนพฺรหฺมโลกาฯ อโธติ ปถวิยา เหฏฺฐา อุสฺสเท มหานิรเยฯ ติริยนฺติ มนุสฺสโลเก, ยตฺตกานิ จกฺกวาฬานิ จ เตสุ สพฺเพสุ เอตฺตเก ฐาเน นิพฺพตฺตา สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนฺตุ, อพฺยาปชฺฌา อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตูติ เอวํ ภาวิเตน เมตฺเตน จิตฺเตนาติ อตฺโถฯ อปฺปมาเณนาติ อปฺปมาณสตฺตานํ อปฺปมาณารมฺมณตฺตา อปฺปมาเณนฯ สพฺพโสติ สพฺพากาเรน, อุทฺธํ อโธ ติริยนฺติ เอวํ สพฺพสุคติทุคฺคติวเสนาติ อตฺโถฯ

อปฺปมาณํ หิตํ จิตฺตนฺติ อปฺปมาณํ กตฺวา ภาวิตํ สพฺพสตฺเตสุ หิตจิตฺตํฯ ปริปุณฺณนฺติ อวิกลํฯ สุภาวิตนฺติ สุวฑฺฒิตํ, อปฺปนาจิตฺตสฺเสตํ นามํฯ ยํ ปมาณกตํ กมฺมนฺติ ยํ ‘‘อปฺปมาณํ อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติ เอวํ อารมฺมณตฺติกวเสน จ วสีภาวปฺปตฺติวเสน จ อวฑฺฒิตฺวา กตํ ปริตฺตํ กามาวจรกมฺมํฯ น ตํ ตตฺราวสิสฺสตีติ ตํ ปริตฺตํ กมฺมํ ยํ ตํ ‘‘อปฺปมาณํ หิตํ จิตฺต’’นฺติ สงฺขคตํ รูปาวจรกมฺมํ, ตตฺร น อวสิสฺสติฯ ยถา นาม มโหเฆน อชฺโฌตฺถฏํ ปริตฺโตทกํ โอฆสฺส อพฺภนฺตเร เตน อสํหีรมานํ นาวสิสฺสติ น ติฏฺฐติ, อถ โข มโหโฆว ตํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺฐติ, เอวเมว ตํ ปริตฺตกมฺมํ ตสฺส มหคฺคตกมฺมสฺส อพฺภนฺตเร เตน มหคฺคตกมฺเมน อจฺฉินฺทิตฺวา อคฺคหิตวิปาโกกาสํ หุตฺวา น อวสิสฺสติ น ติฏฺฐติ, น สกฺโกติ อตฺตโน วิปากํ ทาตุํ, อถ โข มหคฺคตกมฺมเมว ตํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺฐติ วิปากํ เทตีติฯ

เอวํ โพธิสตฺโต อนฺเตวาสิกานํ เมตฺตาภาวนาย อานิสํสํ กเถตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตฺวา สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป น อิมํ โลกํ ปุน อคมาสิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อิสิคโณ พุทฺธปริสา อโหสิ, อรโก ปน สตฺถา อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

อรกชาตกวณฺณนา นวมาฯ

[170] 10. กกณฺฏกชาตกวณฺณนา

นายํ ปุเร อุณฺณมตีติ อิทํ กกณฺฏกชาตกํ มหาอุมงฺคชาตเก (ชา. 2.22.590 อาทโย) อาวิภวิสฺสติฯ

กกณฺฏกชาตกวณฺณนา ทสมาฯ

สนฺถววคฺโค ทุติโยฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

อินฺทสมานโคตฺตญฺจ, สนฺถวํ สุสีมํ คิชฺฌํ;

นกุลํ อุปสาฬกํ, สมิทฺธิ จ สกุณคฺฆิ;

อรกญฺจ กกณฺฏกํฯ

3. กลฺยาณวคฺโค

[171] 1. กลฺยาณธมฺมชาตกวณฺณนา

กลฺยาณธมฺโมติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ พธิรสสฺสุํ อารพฺภ กเถสิฯ สาวตฺถิยญฺหิ เอโก กุฏุมฺพิโก สทฺโธ ปสนฺโน ติสรณคโต ปญฺจสีเลน สมนฺนาคโตฯ โส เอกทิวสํ พหูนิ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ เจว ปุปฺผคนฺธวตฺถาทีนิ จ คเหตฺวา ‘‘เชตวเน สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ อคมาสิฯ ตสฺส ตตฺถ คตกาเล สสฺสุ ขาทนียโภชนียํ คเหตฺวา ธีตรํ ทฏฺฐุกามา ตํ เคหํ อคมาสิ, สา จ โถกํ พธิรธาตุกา โหติฯ